ขยะแบบไหนที่โรงงานรีไซเคิลรับซื้อบ้าง? แยกถูก ได้ราคาดี
13 ต.ค. 2568

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น หลายครอบครัวหันมาให้ความสำคัญกับการหารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ จากสิ่งรอบตัว “ขยะ” ก็คือหนึ่งในนั้น เพราะขยะบางชนิดไม่ใช่ของไร้ค่า หากแต่มีมูลค่าเมื่อถูกนำไปรีไซเคิล หลายคนอาจไม่รู้ว่าแค่แยกขยะรีไซเคิลให้ถูกประเภทและสะอาด ก็สามารถนำไปขายได้เงินคืนมาพอสมควร แถมยังช่วยโลกไปพร้อมกัน
แต่จะเริ่มต้นอย่างไรดี? มาดูกันว่าโรงงานรีไซเคิลรับซื้อขยะประเภทไหนบ้าง และมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้คุณแยกถูก ได้ราคาดี ไปดูกันเลย!
ทำไมต้องแยกขยะรีไซเคิล ?
ประเทศไทยมีปริมาณขยะมากกว่า 20 ล้านตันต่อปี แต่กว่าครึ่งถูกทิ้งปะปนไปกับขยะทั่วไป ทำให้ไม่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วขยะบางส่วนยังมีค่าและนำมาใช้ใหม่ได้ เช่น กระดาษ พลาสติก หรือโลหะ
การแยกขยะรีไซเคิลตั้งแต่ต้นทางจึงช่วยลดปริมาณขยะล้นเมือง รวมถึงช่วยให้การจัดการง่ายขึ้น โรงงานไม่ต้องเสียเวลาคัดแยกใหม่ และที่สำคัญขยะที่สะอาดและเป็นระเบียบจะถูกประเมินราคาสูงกว่า
ประเภทขยะรีไซเคิลที่โรงงานรับซื้อ
1. กระดาษ
กระดาษเป็นวัสดุที่รีไซเคิลง่ายและมีความต้องการสูงในตลาด ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร กล่องลัง หรือกระดาษขาว-ดำ ล้วนมีมูลค่า
ราคาโดยประมาณ: กระดาษลัง 5-7 บาท/กก., กระดาษขาว-ดำ 7-10 บาท/กก.
เคล็ดลับแยกขยะ: ควรมัดรวมเป็นตั้ง เก็บให้แห้งไม่เปียก เพราะกระดาษเปียกจะถูกกดราคาหรือไม่รับซื้อเลย
2. พลาสติก
พลาสติกเป็นหนึ่งในขยะที่มีปริมาณมากที่สุด และหากแยกประเภทดี ๆ จะมีราคาน่าสนใจ เช่น ขวดน้ำพลาสติกใส (PET), ขวดน้ำมันพืช, แกลลอน, ถุงพลาสติก HDPE
ราคาโดยประมาณ: ขวดพลาสติกใส 10-15 บาท/กก., แกลลอนพลาสติก 6-10 บาท/กก.
เคล็ดลับแยกขยะ: ล้างสิ่งสกปรกออกก่อน บีบอัดให้แบนเพื่อลดพื้นที่จัดเก็บ และแยกสีใสกับสีอื่น ๆ ออกจากกัน
3. โลหะ
โลหะ เป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะทองแดงและอะลูมิเนียมซึ่งสามารถนำไปใช้ซ้ำได้หลากหลายอุตสาหกรรม
ราคาโดยประมาณ: ทองแดง 150-200 บาท/กก., ทองเหลือง 100-150 บาท/กก., อะลูมิเนียม 50-70 บาท/กก.
เคล็ดลับแยกขยะ: หากสามารถแยกโลหะเป็นชนิด ๆ ได้นั้นราคาจะดีกว่าการขายรวม เช่น ทองแดงที่ไม่ปะปนกับพลาสติกหรือสายไฟ ราคาจะสูงขึ้นมาก
4. แก้ว
แก้วเป็นวัสดุที่รีไซเคิลได้ 100% และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ โรงงานมักรับซื้อทั้งขวดแก้ว, โหลแก้ว และเศษแก้ว
ราคาโดยประมาณ: 1-2 บาท/กก.
เคล็ดลับแยกขยะ: แยกสีขวด เช่น ขวดแก้วใสกับขวดสีน้ำตาล เพราะแต่ละสีจะถูกรีไซเคิลต่างกัน ขวดที่ล้างสะอาดและไม่มีสิ่งปนเปื้อนจะได้ราคาดีกว่า
5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste)
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์เก่า โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย
ราคาโดยประมาณ: มือถือเก่า 50-500 บาท/เครื่อง, คอมพิวเตอร์เก่า 100-1,000 บาท/เครื่อง
เคล็ดลับแยกขยะ: เก็บทั้งเครื่องไว้ ไม่ควรแยกชิ้นส่วนเอง เพราะบางชิ้นมีสารอันตราย และหากชิ้นส่วนขาด ราคาก็จะลดลง
6. แบตเตอรี่เก่า
หลายคนมักกองไว้ในบ้าน แต่จริง ๆ แล้วแบตเตอรี่เก่ามีมูลค่าและสามารถรีไซเคิลได้ เช่น นำตะกั่วไปหลอมใหม่
ราคาโดยประมาณ: 30-50 บาท/กก.
เคล็ดลับแยกขยะ: เก็บในภาชนะที่มั่นคง ป้องกันการรั่วซึม และรีบส่งศูนย์รับซื้อ ไม่ควรเก็บไว้นานเพราะอาจเป็นอันตราย
เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าขยะรีไซเคิล
แยกขยะให้สะอาด
ขยะที่สะอาด เช่น ขวดพลาสติกที่ล้างแล้ว มักได้ราคาสูงกว่าขวดที่สกปรก
จัดประเภทขยะให้ชัดเจน
ยิ่งแยกชัดเจน เช่น กระดาษลังกับหนังสือพิมพ์ ราคายิ่งดี
รักษาสภาพขยะ
ขวดแก้วไม่แตก ขวดพลาสติกไม่บุบมาก จะมีราคาดีกว่า
ขายขยะแบบล็อตใหญ่
หากเก็บจำนวนมากก่อนนำไปขาย ราคามักจะดีกว่าขายครั้งละเล็กน้อย
เลือกโรงงานรีไซเคิลที่เชื่อถือได้
การนำขยะไปขายที่ศูนย์รีไซเคิลมาตรฐาน ช่วยให้มั่นใจว่า ขยะจะถูกนำไปจัดการอย่างปลอดภัยและถูกวิธี
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านหรือทำงานในเมือง ขยะรอบตัวล้วนมีมูลค่า ถ้าแยกขยะรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ทั้งกระดาษ พลาสติก โลหะ แก้ว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแบตเตอรี่เก่า สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนจากของที่เคยไร้ค่าให้กลายเป็นรายได้เสริม และช่วยลดปัญหาขยะล้นเมืองได้ในเวลาเดียวกัน
เพราะฉะนั้นอย่ามองขยะเป็นภาระ แต่ให้มองว่าเป็นทรัพยากรที่ซ่อนมูลค่า แค่คุณแยกให้ถูก เตรียมให้ดี และส่งต่อให้โรงงานรีไซเคิลที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยทั้งโลกและกระเป๋าสตางค์ของคุณได้พร้อม ๆ กัน
มาเริ่มต้นรีไซเคิลอย่างมืออาชีพได้ที่ วงษ์พาณิชย์ สาขาสีหบุรานุกิจ 9 เขตมีนบุรี คลิกเลย